ประวัติสโมสรชลบุรี เอฟซี
มาทำความรู้จักกับทีมฟุตบอลชั้นนำของเมืองไทยทีมนี้กัน...
ชื่อสโมสร สโมสรฟุตบอล ชลบุรี เอฟซี
สถานที่ตั้ง สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ถนนพระยาสัจจา ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000
ฉายา ฉลามชล, บลูชาร์ค
ปีที่ก่อตั้ง 2540 (ในนามสโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ)
สนามเหย้า ชลบุรี สเตเดี้ยม (8,600 ที่นั่ง)
ประวัติสโมสร
ยุคเริ่มต้น (โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา)
ทีม สโมสรฟุตบอลจังหวัดชลบุรี แต่เดิมเป็น ทีมสโมสรฟุตบอลของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และได้เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทาน ต่อมาได้ถูกรวมเข้ากับทีม สโมสรสันนิบาตสมุทรปราการ โดยใช้ชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ ได้เข้าแข่งขันใน ดิวิชัน 1
ต่อ มาได้ย้ายไปเล่นใน โปรวินเชียลลีก ในชื่อ สโมรสรฟุตบอลชลบุรี และได้แยกทีม สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ ซึ่งเล่นในดิวิชัน 1 อยู่ โดยทีมสโมสรชลบุรีนั้นได้นำผู้เล่นจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี และได้ชนะเลิศโปรลีกในปี 2548 และได้เลื่อนมาเล่นใน ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกในปี 2549
ในปี 2549 ทีม ชลบุรี ร่วมลงแข่งขันฟุตบอลควีนส์คัพ ในนามของ สโมสรราชประชา และเข้าร่วมแข่ง สิงคโปร์คัพ และได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ได้อันดับสอง รองจาก สโมสรฟุตบอลทัมปิเนสโรเวอร์ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
ยุคปัจจุบัน
ในปี 2550 สโมสร ฟุตบอลชลบุรี ภายใต้การนำของหัวหน้าผู้ฝึกสอน จเด็จ มีลาภ สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ในการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2550 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร และได้สิทธิเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการเอเอฟซีแช มเปียนส์ลีก
ในปี 2551 สโมสรฟุตบอลชลบุรีสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก ประจำปี 2550 มาได้ แต่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกไว้ได้ ทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศ ส่วนทีมชนะเลิศได้แก่สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ปัจจุบันคือสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ทำให้ต้องไปเล่นในรายการเอเอฟซีคัพซึ่งเป็นถ้วยรองในระดับทวีปเอเชียแทน
ในปี 2552 สโมสรฟุตบอลชลบุรี มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเฮดโค้ช โดยได้เกียรติศักดิ์ เสนานเมือง จากจุฬา ยูไนเต็ด มาคุมทีมแทน จเด็จ มีลาภ ที่ย้ายไปคุม พัทยา ยูไนเต็ด ในปีนี้สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2551 มาครองได้อีกครั้ง แต่ในฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศอีกครั้งหนึ่ง ส่วนทีมชนะเลิศได้แก่สโมสรฟุตบอลเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
ในปี 2553 สโมสรฟุตบอลชลบุรี ได้ จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทัพอีกครั้งพร้อมกับย้ายสนามเหย้ามาจากสิรินธร โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา มาที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ในฤดูกาลนี้สโมสรทำได้เพียง อันดับที่ 3 ในการแข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก แต่ก็ยังสามารถคว้ารางวัล ชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในรายการมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ มาครองได้ เป็นครั้งแรกทำให้ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล
รายการเอเอฟซีคัพประจำปี 2554
ในปี 2554 สโมสร ฟุตบอลชลบุรี ย้ายสนามเหย้าจาก สนามสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชลบุรี มาใช้สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม ได้ วิทยา เลาหกุล ลงมารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเต็มตัว ทำงานร่วมกับ จเด็จ มีลาภ ซึ่งในปีเดียวกันนี้สโมสร สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2553 มาครองได้ ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่สามในประวัติศาสตร์สโมสร และจบอันดับด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก เป็นสมัยที่สาม แต่ได้สิทธิเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกในรายการ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีกอีกครั้ง
ในปี 2555 สโมสร ฟุตบอลชลบุรี เปลี่ยนผู้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาจาก เอฟบีที เป็น ไนกี้ และเริ่มเปิดฤดูกาลด้วยการป้องกันตำแหน่งชนะเลิศรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราช ทาน ก. ไว้ได้อีกสมัย โดยการเฉลือนเอาชนะจุดโทษสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 6 ประตู ต่อ 5 ภายหลังเสมอในเวลา 90 นาที 2 ประตู 2 ส่วนในรายการไทยพรีเมียร์ลีกจบอันดับด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ อีกครั้งหนึ่ง และผลงานในถ้วย เอเอฟซี คัพ 2012 สโมสรฟุตบอลชลบุรีสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร
เกียรติประวัติสโมสร
2555 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก. และ เอเอฟซีคัพรอบรองชนะเลิศ
2554 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก. และ เอเอฟซีคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย
2553 ชนะเลิศ ฟุตบอลไทยคม เอฟเอคัพ
2553 รองชนะเลิศควีนคัพ
2552 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก รองชนะเลิศควีนคัพ และ เอเอฟซีคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย
2551 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก และ ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก.
2550 ชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก และ ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก.
2549 รองชนะเลิศสิงคโปร์คัพ
2548 ชนะเลิศโปรวินเชียลลีก
2545 รองชนะเลิศโปรวินเชียลลีก
สถานที่ตั้ง สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ถนนพระยาสัจจา ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000
ฉายา ฉลามชล, บลูชาร์ค
ปีที่ก่อตั้ง 2540 (ในนามสโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ)
สนามเหย้า ชลบุรี สเตเดี้ยม (8,600 ที่นั่ง)
ประวัติสโมสร
ยุคเริ่มต้น (โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา)
ทีม สโมสรฟุตบอลจังหวัดชลบุรี แต่เดิมเป็น ทีมสโมสรฟุตบอลของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และได้เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทาน ต่อมาได้ถูกรวมเข้ากับทีม สโมสรสันนิบาตสมุทรปราการ โดยใช้ชื่อ สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ ได้เข้าแข่งขันใน ดิวิชัน 1
ต่อ มาได้ย้ายไปเล่นใน โปรวินเชียลลีก ในชื่อ สโมรสรฟุตบอลชลบุรี และได้แยกทีม สโมสรฟุตบอลชลบุรี-สันนิบาตสมุทรปราการ ซึ่งเล่นในดิวิชัน 1 อยู่ โดยทีมสโมสรชลบุรีนั้นได้นำผู้เล่นจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี และได้ชนะเลิศโปรลีกในปี 2548 และได้เลื่อนมาเล่นใน ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกในปี 2549
ในปี 2549 ทีม ชลบุรี ร่วมลงแข่งขันฟุตบอลควีนส์คัพ ในนามของ สโมสรราชประชา และเข้าร่วมแข่ง สิงคโปร์คัพ และได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ได้อันดับสอง รองจาก สโมสรฟุตบอลทัมปิเนสโรเวอร์ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
ยุคปัจจุบัน
ในปี 2550 สโมสร ฟุตบอลชลบุรี ภายใต้การนำของหัวหน้าผู้ฝึกสอน จเด็จ มีลาภ สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ในการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2550 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร และได้สิทธิเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการเอเอฟซีแช มเปียนส์ลีก
ในปี 2551 สโมสรฟุตบอลชลบุรีสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก ประจำปี 2550 มาได้ แต่ไม่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกไว้ได้ ทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศ ส่วนทีมชนะเลิศได้แก่สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ปัจจุบันคือสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ทำให้ต้องไปเล่นในรายการเอเอฟซีคัพซึ่งเป็นถ้วยรองในระดับทวีปเอเชียแทน
ในปี 2552 สโมสรฟุตบอลชลบุรี มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเฮดโค้ช โดยได้เกียรติศักดิ์ เสนานเมือง จากจุฬา ยูไนเต็ด มาคุมทีมแทน จเด็จ มีลาภ ที่ย้ายไปคุม พัทยา ยูไนเต็ด ในปีนี้สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2551 มาครองได้อีกครั้ง แต่ในฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกทำได้เพียงตำแหน่งรองชนะเลิศอีกครั้งหนึ่ง ส่วนทีมชนะเลิศได้แก่สโมสรฟุตบอลเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
ในปี 2553 สโมสรฟุตบอลชลบุรี ได้ จเด็จ มีลาภ กลับมาคุมทัพอีกครั้งพร้อมกับย้ายสนามเหย้ามาจากสิรินธร โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา มาที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี ในฤดูกาลนี้สโมสรทำได้เพียง อันดับที่ 3 ในการแข่งขันไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก แต่ก็ยังสามารถคว้ารางวัล ชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในรายการมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ มาครองได้ เป็นครั้งแรกทำให้ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล
รายการเอเอฟซีคัพประจำปี 2554
ในปี 2554 สโมสร ฟุตบอลชลบุรี ย้ายสนามเหย้าจาก สนามสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชลบุรี มาใช้สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม ได้ วิทยา เลาหกุล ลงมารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเต็มตัว ทำงานร่วมกับ จเด็จ มีลาภ ซึ่งในปีเดียวกันนี้สโมสร สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2553 มาครองได้ ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่สามในประวัติศาสตร์สโมสร และจบอันดับด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก เป็นสมัยที่สาม แต่ได้สิทธิเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกในรายการ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีกอีกครั้ง
ในปี 2555 สโมสร ฟุตบอลชลบุรี เปลี่ยนผู้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาจาก เอฟบีที เป็น ไนกี้ และเริ่มเปิดฤดูกาลด้วยการป้องกันตำแหน่งชนะเลิศรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราช ทาน ก. ไว้ได้อีกสมัย โดยการเฉลือนเอาชนะจุดโทษสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 6 ประตู ต่อ 5 ภายหลังเสมอในเวลา 90 นาที 2 ประตู 2 ส่วนในรายการไทยพรีเมียร์ลีกจบอันดับด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ อีกครั้งหนึ่ง และผลงานในถ้วย เอเอฟซี คัพ 2012 สโมสรฟุตบอลชลบุรีสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร
เกียรติประวัติสโมสร
2555 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก. และ เอเอฟซีคัพรอบรองชนะเลิศ
2554 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก. และ เอเอฟซีคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย
2553 ชนะเลิศ ฟุตบอลไทยคม เอฟเอคัพ
2553 รองชนะเลิศควีนคัพ
2552 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก รองชนะเลิศควีนคัพ และ เอเอฟซีคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย
2551 รองชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก และ ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก.
2550 ชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก และ ชนะเลิศถ้วยพระราชทาน ก.
2549 รองชนะเลิศสิงคโปร์คัพ
2548 ชนะเลิศโปรวินเชียลลีก
2545 รองชนะเลิศโปรวินเชียลลีก